การป้องกันดวงตาจากแสงที่มาจากการตัดพลาสม่า

Share it

การป้องกันดวงตาจากแสงที่มาจากการตัดพลาสม่า

การป้องกันดวงตาจากแสงที่มาจากการตัดพลาสม่า

เราจะป้องกันดวงตาจากแสงที่เกิดจากการตัดพลาสม่าได้อย่างไร

ห้ามจ้องมองที่แสงจ้าของพลาสม่า

แสงจากการตัดพลาสม่าหรือลำแสงพลาสม่าอาร์คจัดเป็นลำแสงจากอาร์คทางไฟฟ้าประเภทหนึ่ง ซึ่งจะแผ่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าโดยเริ่มจากความถี่ต่ำหรือแสงอินฟาเรด ถึงความถี่ของแสงที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ (Visible light) และเข้าสู่ช่วงความถี่สูง กล่าวคือแสงอัลตร้าไวโอเลต(UV) ความเข้มแสงของพลาสม่าอาร์คนั้นสูงมาก เพราะกำเนิดจากกระแสไฟฟ้าในช่วงสูงถึง 100-800 แอมแปร์  การมองแสงอาร์คด้วยตาเปล่าสามารถทำอันตรายแก่ดวงตาได้อย่างง่ายดาย อาจทำให้การมองเห็นเสื่อมสภาพ แม้กระทั่งส่งผล ให้ตาบอดอย่างถาวรได้อีกด้วย

คำแนะนำสำหรับการป้องกันดวงตาเมื่อตัดพลาสม่า

ปัจจุบันมีองค์กรไม่มากนักที่จะให้คำแนะนำเราให้ระวังในเรื่องนี้  OSHA, ANSI เป็นหนึ่งในองค์กรเหล่านั้น  โดยรายละเอียดด้านล่างนำมาจาก OSHA Fact Sheet ” Eye Protection against Radiant Energy durring Welding and Cutting in Shipyard Employment”

(http://www.osha.gov/Publications/OSHAfactsheet-eyeprotection-during-welding.pdf),

รวมถึงข้อกำหนดของ ANSI Z49.1:2005 Safety in Welding, Cutting, and Allied Processes (http://www.aws.org/technical/facts/Z49.1-2005-all.pdf)
ค่าของความเข้มของกระจกกันแสงที่ระบุเป็นเบอร์หมายถึงระดับความเข้มของสีของกระจกเซฟตี้หรือกระจกกันแสงของหน้ากากเชื่อม ระดับตัวเลขที่มากขึ้นแสดงถึงความเข้มที่มากขึ้นตามไปด้วย

จากค่าที่แสดงในตารางทั้งสอง ใช้หลักการที่ว่า “ให้มองแนวเชื่อมผ่านกระจกกันแสงที่มีความเข้มสูงก่อน จากนั้นไล่ระดับความเข้มลดลงมาจนสามารถมองเห็นแนวเชื่อมได้ โดยต้องไม่ต่ำกว่าค่าความเข้มที่น้อยที่สุดที่ตารางแนะนำ

ANSI แนะนำการเชื่อมด้วยขบวนการเชื่อมธูปไฟฟ้า SMAW เชื่อมมิกแมก GMAW และ เชื่อมฟลัคคอร์ FCAW ให้เลือกใช้กระจกกันแสงในช่วงความเข้ม 10-14 จากนั้นมองแนวเชื่อมผ่านกระจกกันแสงของหน้ากากเชื่อมและปรับระยะของหัวเชื่อมให้เหมาะสมกับการเชื่อม ทั้งหมดนี้สามารถทำได้และเกิดขึ้นในระยะห่างเพียงไม่กี่นิ้วจากบริเวณใบหน้าหรือระดับสายตาของคุณ (ช่างเชื่อมต้องการหน้ากากเชื่อมพร้อมกระจกกันแสงเพื่อป้องกันทั้งผิวหน้าและดวงตา)

ความแตกต่างของการควบคุมเครื่องตัด CNC พลาสม่า กับการตัดพลาสม่าด้วยมือหรือการเชื่อมด้วยมือ

  1. ผู้ปฏิบัติงานอยู่ห่างจากจุดกำเนิดพลาสม่าอาร์คมากกว่าเมื่อเทียบกับการเชื่อมอาร์คของช่างเชื่อม
  2. ผู้ปฏิบัติงานต้องทำการเดินในบริเวณรอบเครื่องและต้องสามารถมองเห็นบริเวณรอบๆได้ชัดเจน การสวมแว่นตากันแสงที่มีความเข้มสูงเทียบเท่าหน้ากากเชื่อมขณะเดินไปรอบๆนั้นเป็นการกระทำที่ไม่ปลอดภัยเนื่องจากการสะดุดล้มเพราะมองเห็นได้ไม่ชัดเจน
  3. ผู้ปฏิบัติงานต้องสามารถมองเห็นบริเวณควบคุมงานได้ รวมทั้งขณะที่เครื่องกำลังทำการตัดพลาสม่าอีกด้วย
  4. ขณะที่หัวตัดพลาสม่ากำลังเคลื่อนที่ ผู้ปฏิบัติงานควรอยู่ในจุดที่ไม่จำเป็นต้องมองการเคลื่อนที่นั้นอยู่ตลอดเวลา

ตามสภาพที่กล่าวมาข้างต้น ผู้ปฏิบัติงานคุมเครื่องตัดซีเอ็นซีพลาสม่าจึงไม่ควรใส่แว่นตากันแสงที่มีความเข้มสูงเทียบเท่าหน้ากากช่างเชื่อมตลอดเวลาการทำงาน

ความเห็นที่แตกต่างกัน

แน่นอนถ้าเราควบคุมตัดเครื่องตัดพลาสม่า 800 แอมป์ ด้วยระยะห่างจากหัวตัดที่เท่ากันกับระยะหัวเชื่อมในกรณีช่างเชื่อม เราควรที่จะใส่หน้ากากเชื่อมหรือแว่นตาที่มีความเข้มเทียบเท่าเพื่อป้องกัน แต่ในทางปฏิบัตินั้นไม่มีใครจ้องมองไปที่จุดอาร์คในขณะที่เครื่องตัดCNCพลาสม่ากำลังทำการตัดอยู่ตลอดเวลา ไม่เหมือนกับการเชื่อมที่การสวมหน้ากากเชื่อมเป็นไปเพื่อป้องกันหน้าและดวงตาจากแสงอาร์คขณะเชื่อม ในกรณีการใช้ควบคุมเครื่องตัด CNC พลาสม่า  โดยทั่วไป คำแนะนำการเลือกความเข้มกระจกกันแสงจากตารางข้างบนดูเหมือนจะเข้มเกินไปเพราะผู้ควบคุมเครื่องตัดไม่ต้องจ้องแนวตัดเหมือนกับช่างเชื่อมจ้องแนวเชื่อม

นอกจากนี้ ยังมีความเห็นที่ผิดจากบางอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการป้องกันดวงตาจากแสง UV (Ultra Violet)และ IR (Infrared) ที่เชื่อว่าแสงที่เรามองเห็น (เช่น UV และ IR) เท่านั้น
ที่เป็นตัวทำลายสายตา ดังนั้นการสวมใส่แว่นตาเซฟตี้ที่ไม่คำนึงถึงระดับความเข้มกระจก รวมถึงการสวมแว่นใสที่มีการกรองแสง UV และIR ก็สามารถช่วยป้องกันดวงตาได้แล้ว
ซึ่งเป็นความเห็นและเป็นความเชื่อที่ผิด

 

ข้อพิสูจน์

แม้ว่าหลักฐานข้อพิสูจน์ยังไม่ชัดเจน อย่างไรก็ดีมีรายงานการวิจัยที่เพิ่มขึ้นที่การระบุถึง การเพิ่มความเข้มในการมองและรับแสงที่มีมองเห็นได้ จะไปทำลายสายตาและนำไปสู่ปัญหาจอประสาทตาเสื่อม  รวมทั้งสภาพตาบอดโดยถาวร สาเหตุใหญ่ของปัญหาอีกอย่างหนึ่งก็คือแสงที่มองไม่เห็นอีกประเภทที่เรียกว่า “Blue light” หรือ “แสงสีน้ำเงิน” ซึงมีความยาวคลื่นต่ำกว่า 380 ถึง 780 นาโนเมตร ซึ่งเป็นความยาวคลื่นที่มนุษย์มองไม่เห็น ความยาวคลื่นนี้จะให้แสงสีน้ำเงิน ซึ่งมีพลังงานมากและเป็นอันตรายกับจอประสาทตาเมื่อได้รับแสงสีน้ำเงินนี้เป็นระยะเวลานานๆ

จากตารางแสดงความเข้มแสงที่ถูกปลดปล่อยจากลำแสงการตัดพลาสม่า จะเห็นได้ว่าความเข้มของแสงจะแปรผันตามช่วงความยาวคลื่น ซึ่งแสงสีน้ำเงินในช่วงความยาวคลื่นต่ำจะให้ความเข้มสูงมาก

อันตราย

เนื่องจากพลาสม่าอาร์คนั้นจะปลดปล่อยแสงชนิดต่างๆตลอดย่านสเปกตรัมของมัน ซึ่งรวมทั้งแสงสีน้ำเงินที่มีความเข้มสูงจากการที่พลาสม่าอาร์คมีพลังงานสูง ดังนั้นลำแสงที่ปลดปล่อยออกมาสู่สายตาของเราย่อมมีความเข้มมากขึ้นตามไปด้วยและอีกปัญหาใหญ่ที่มีความสำคัญก็คือคุณจะไม่รู้สึกว่าจอประสาทตาถูกทำลาย เมือรู้ตัวอีกทีก็พบว่าสายเกินแก้แล้วเพราะจะไม่มีความเจ็บปวดจากการที่จอรับภาพในดวงตา (retina) ถูกทำลาย จะมารู้ก็ต่อเมื่อการมองเห็นของคุณเริ่มเสื่อม หากรอถึงตอนคุณไปหาหมอเพราะปัญหานี้ ส่วนที่เสื่อมสภาพในดวงตาก็ถูกทำลายโดยถาวรไปแล้ว

สรุป

ผู้ควบคุมเครื่องตัดซีเอ็นซีพลาสม่าควรเลือกใช้แว่นตาที่มีความเข้มที่เหมาะสมโดยเลือกให้ความเข้มอ่อนกว่าที่ตารางแนะนำเล็กน้อยเพื่อให้สามารถมองเห็นสภาพแวดล้อมได้สะดวก
และปฏิบัติงานได้โดยมีความปลอดภัย อย่างไรก็ตามแว่นตาเซฟตี้ใสที่มีการกรอง UV และ IR นั้นยังไม่เพียงพอต่อการป้องกันดวงตาจากพลาสม่าอาร์ค แนะนำให้ใส่แว่นเซฟตี้เฉดเหลืองเพื่อป้องกันแสงสีน้ำเงินจากพลาสม่าอาร์ค และอาจเสริมการป้องกันดวงตาเพิ่มเติมด้วยหน้ากากเชื่อมแบบถือเมื่อต้องการจ้องมองพลาสม่าอาร์คหรือติดตั้งม่านกันแสงไฟเชื่อม ในตำแหน่งที่สามารถจัดวางได้

 

ที่มา
http://www.esabna.com/us/en/education/blog/what-eye-protection-is-required-for-cnc-plasma-cutting.cfm

บทความอื่นๆ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว บันทึกการตั้งค่า